หนังสือพิมพ์ “บิลด์ อัม ซ็อนท็าก” เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของชาวเยอรมัน จัดทำร่วมกับศูนย์วิจัยอินซา เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีโอลาฟ โชลซ์ ซึ่งรับตำแหน่งเมื่อเดือน ธ.ค. ปีที่แล้ว ว่า 62% ไม่พอใจกับการทำงานของผู้นำเยอรมนีคนปัจจุบัน ถือเป็นสถิติสูงสุด เพิ่มขึ้นจาก 39% เมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา
ขณะที่มีกลุ่มตัวอย่างเพียง 25% ซึ่งกล่าวว่า มีความพึงพอใจกับการปฏิบัติหน้าที่ของโชลซ์ ลดลงจากที่เคยสูงถึง 46% เมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา
ด้านคะแนนนิยมของพรรคสังคมประชาธิปไตย (เอสพีดี) ซึ่งเป็นพรรคแกนนำรัฐบาลเยอรมนีชุดปัจจุบัน อยู่ที่เพียง 19% ตามผลสำรวจล่าสุดครั้งนี้ โดยเป็นคะแนนนิยมที่น้อยกว่าพรรคร่วมรัฐบาลขนาดเล็กกว่าอีกสองพรรค และเป็นคะแนนนิยมที่ลดลงอย่างมาก จากเคยสูงถึง 25.7% เมื่อเดือน ธ.ค. ปีที่แล้ว
ทั้งนี้ หลังรับตำแหน่งผู้นำเยอรมนีได้ไม่นาน โชลซ์เผชิญกับวิกฤติครั้งใหญ่ที่สุดของยุโรป นับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง นั่นคือ สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน ที่ยืดเยื้อมานานครึ่งปีแล้ว ซึ่งส่งผลกระทบอย่างหนักต่อห่วงโซ่อุปทานโลก ร่วมด้วยการที่แทบทุกพื้นที่ของยุโรปประสบกับภัยแล้งครั้งรุนแรงที่สุดในรอบหลายศตวรรษ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้กำลังทำให้เศรษฐกิจของเยอรมนี ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในทวีป สุ่มเสี่ยงเผชิญกับภาวะถดถอย